วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

เมนูรอดตายที่เมืองจีน

 
     เวลาไปฮ่องกงหรือจีนทีไร ทุกข์ขนัดของคนเรื่องมากในเรื่องกินเช่นเดี๊ยน มีอันต้องวางแผนการจัดกระเป๋าเพิ่ม นอกจากเสื้อผ้ารุงรังแล้วยังต้องเอาอาหารยัดใส่เพิ่มเข้าไปมีทั้งถุง ทั้งถ้วยคัพ ทั้งกระป๋องให้วุ่นวายเข้าไปอีก เนื่องจากอาหารที่ฮ่องกงไม่ค่อยมีอะไรถูกปากเลย ยกเว้นที่อร่อยติดดาวแม้เป็นร้านริมข้างทางคือ ข้าวหมูกรอบ,หมูแดงและเป็ดย่าง (ซึ่งตอนนี้เลิกทานเป็ดไปแล้ว เพิ่มความยุ่งยากให้ตัวเองเข้าไปอีก) แต่ใครที่ติดทานแบบไทยๆที่ต้องมีน้ำข้นๆราดล่ะก็จะต้องผิดหวังนิดหน่อยแหละค่ะ เพราะเค้าเป็นข้าวสวยกับเนื้อนั้นๆเพียวๆ ดูสิต้องแอบคลุกน้ำพริกด้วยนะ อิอิ


ส่วนร้านที่เป็นแบรนด์เนี่ย Yoshinoya จะเป็นสวรรค์ของคนรักข้าวหน้าแบบญี่ปุ่นทีเดียว ชามนี้รู้สึกจะเป็นข้าวหน้าหมูตุ๋นแบบคล้ายๆพะโล้อ่ะ (ลืมชื่อไปแล้ว)



     ทางด้านเมืองจีนที่กว่างโจว ที่ค่อนข้างด้อย(มาก)เรื่องสุขอนามัย เลยลุ้นมากๆ ถ่ายเอาไว้เยอะ สังเกตได้ว่ารสชาติอาหารของร้านทั่วๆไปในจีนนั้นจะรสชาติเข้มข้นกว่า เหมือนรสชาติที่อาม่า หรือคุณย่าคุณยาย ของบ้านเราทำให้กิน แต่จะมันกว่า 20 เท่า แบบที่ว่ากินแล้วน้ำมันย้อยออกมาจากริมฝีปากเลยล่ะ ทิชชู่ก็ไม่มีแจก เคยลืมพกไปทีนึง พอเอานิ้วเช็ดๆน้ำมันเจ้ากรรมไหลย้อยใส่แขนเสื้อซะนี่ สวยมากๆ อยากจะกรี๊ด จะสั่งทีเนี่ยก็ลำบากต้องแอบเหล่โต๊ะข้างๆ ซึ่งอาตี๋ อาเจ๊ก็จะเหล่เรากลับเหมือนกลัวเราเข้าไปขายทิชชู่ พอคราวไหนเจอเมนูที่กินได้แล้วก็ต้องกลับไปกินเมนูซ้ำๆนี่แหละกันเหนียว ร้านเดิมๆเมนูเดิมๆ ตลอดสามสี่วัน

     ที่นี้ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง อันแรกเนี่ย เบบี้สุดๆกะว่ายังไงก็ได้แน่ ข้าวผัดหมู "จูโร่ว ชราวฝ่าน"


หอมกะทะมากแต่เฮียผัดข้าวกับเกลือซักทัพพีได้มั้ง จริงๆนะไม่ได้เว่อร์เค็มสุดๆ สั่งกี่ครั้งก็เค็มแบบนี้เลย ต่อมากินเล่นระหว่างรอข้าวผัดเกลือ "เสี่ยวหลงเปา" เรียกตามตี๋เก๊กหน้าหล่อแบบพี่หลิว (แต่ดันไม่หล่อ..ฟันเหลืองๆ) ลูกเท่านิ้วโป้ง เป็นไส้หมู ก็ดีๆ ได้ฟิล local food


นี่ก็ "เกี๊ยว" เกี๊ยวเฉยๆ ถ้าสั่งเกี๊ยวซ่าอาจได้อย่างอื่นมาแทน


เมนูนี้ลงตัวสุดถูกใจหมวยเมืองไทย รู้มั้ยว่าจนป่านนี้ยังไม่รู้ชื่อมันเลยเพราะครั้งแรกที่ได้กินสาเหตุจาก สั่งอย่างแต่ได้อีกอย่าง คือไอ้นี่ เดชะบุญถ่ายรูปเอาไว้ครั้งต่อมาเลยเอารูปให้อาเจ้เจ้าของร้านดูเอา น่าจะเรียกว่าข้าวไข่ข้นใส่หมูแดง เค็มกำลังดีกินกับข้าวสวยร้อนๆ



 

ดูน้ำซุปสิฟักไม่ต้องปอกเปลือกอุดมคุณค่าสารอาหาร



แล้วไม่รู้เป็นไงคนไทยในเมืองจีนหรือฮ่องกงเนี่ยจะได้รับความสนใจตลอด อุ้ย!คนไทยเหรอคะ ญาติหนูก็อยู่เมืองไทยนะ อย่างงี้อย่างนั้น ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นรังสีที่ดีนะ  วัดเอาจากบรรยากาศน่ะ คือถ้าด่าแต่หน้ายิ้มดิฉันก็ไม่รู้เรื่องค่ะ

อาหารรถเข็นเนี่ยเป็นอันที่ยังไงก็ไม่กล้ากินเพราะบางทีชอบรวมอยู่กับร้านเต้าหู้เหม็น เหม็นมากๆ รุ่นพี่เคยเดินผ่านแล้วอ้วกพุ่งอ่ะ ว่าเค้าไม่ได้ เหม็นจริงๆ เจอเข้าบ่อยๆ ต้องมาปรึกษากันว่า รึต้องกินเข้าไปฟะจะได้หายเหม็น แต่จนป่านนี้ยังไม่มีใครเป็นหน่วยกล้าตายค่ะ

 


มาดูขนมดีกว่าของโปรดคือ wallnut cookies ที่ฮ่องกงต้องแนะนำร้าน Kee wah bakery ในแอร์พอร์ตก็มีขาย อร่อยมาก ถ้าเรียกวอลนัทคุกกี้ดูไฮโซไป มันก็คือขนมหน้าแตกในบ้านเรานี่แหละค่ะ แต่รสชาติดีกว่าเยอะ ทานแล้วได้ความทรงจำตอนเด็ก ที่อร่อยอีกอย่างคือ egg roll อ่ะ แต่ไม่มีรูป ตอนเด็กๆจำได้มั้ย อิจิบัน เอ้กโรล หน้าตาเหมือนทองม้วนแต่ทำจากไข่



ฟากเมืองจีนเนี่ยหากินง่ายนั่งสบายก็ ทาร์ตไข่ที่ KFC จ้ะ กินกับกาแฟถ้วยนึงตอนบ่ายๆนะ ค่อยหายเหนื่อยหน่อย ก็แปลกเนอะ ตอนอยู่ฮ่องกงกลับไม่ค่อยเห็นทาร์ตไข่เท่าไหร่ สงสัยเส้นทางที่เดินบ่อยๆมันไม่มีร้านขายน่ะค่ะ เจอแต่ krispy kreme อ่ะ แต่ขอซุบซิบหน่อยนะ ส่วนตัวแล้วไม่เห็นว่าเจ้าโดนัทร้านนี้จะมีอะไรพิเศษเกินกว่ายี่ห้ออื่นหนิ อาจเป็นเพราะว่าสมัยก่อนยังไม่มีขายที่เมืองไทยคนก็เห่อๆหน่อยรึเปล่าคะ





เขียนแล้วนึกอยากกินแฮะ ต้องแวะไปร้าน kanom ซื้อกินซักอันสองอันเนอะ แถมพายเห็ดอีกแปดชิ้น 555 ชอบมากๆ
Have a nice day!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Please share...